สนับสนุนกฎหมายเศรษฐกิจผลิตภัณฑ์สุขภาพ ปูทางอนาคตความมั่นคงด้านยาของไทยให้ยั่งยืน
4 มีนาคม 2568

คณะกรรมการพัฒนาระบบยาแห่งชาติ (คยช.) สนับสนุนการจัดทำ (ร่าง) พ.ร.บ.เศรษฐกิจผลิตภัณฑ์สุขภาพ เพื่อส่งเสริมความร่วมมือให้เกิดการพัฒนาและส่งเสริมศักยภาพในทุกมิติผลิตภัณฑ์สุขภาพส่งเสริมเศรษฐกิจผลิตภัณฑ์สุขภาพตลอดห่วงโซ่อุปทาน เพื่อผลักดันไทยสู่ศูนย์กลางสุขภาพนานาชาติ (Medical Hub)

          วันนี้ (4 มีนาคม 2568) นายประเสริฐ จันทรรวงทอง รองนายกรัฐมนตรี ประธานกรรมการพัฒนาระบบยาแห่งชาติ เปิดเผยภายหลังการประชุมว่า คณะกรรมการฯ ได้รับทราบ (ร่าง) พ.ร.บ. เศรษฐกิจผลิตภัณฑ์สุขภาพ พ.ศ..... และมอบ สธ. รับความเห็นของคณะกรรมการฯ ไปประกอบการพิจารณาจัดทำ (ร่าง) พ.ร.บ. เศรษฐกิจผลิตภัณฑ์สุขภาพ พ.ศ... เพิ่มเติม กฎหมายฉบับนี้จะช่วยบูรณาการความร่วมมือภาคส่วนที่เกี่ยวข้องทั้งรัฐและเอกชน รวมทั้งสร้างระบบนิเวศน์ที่เอื้อตลอดห่วงโซ่อุปทาน เพื่อผลักดันผลิตภัณฑ์สุขภาพกลุ่มเป้าหมายให้สามารถสร้างนวัตกรรมตอบสนองสถานการณ์ทั้งภาวะปกติและฉุกเฉินได้อย่างเหมาะสม ซึ่งจะเกิดประโยชน์ต่อประเทศทั้งการสร้างความมั่นคงของผลิตภัณฑ์สุขภาพ สร้างมูลค่าและการเสริมสร้างเศรษฐกิจของประเทศ นอกจากนี้ คณะกรรมการพัฒนาระบบยาแห่งชาติได้เพิ่มรายการยาในบัญชียาหลักแห่งชาติเพื่อให้ประชาชนเข้าถึงยาจำเป็นที่มีราคาแพงกว่า 20 รายการ เช่น  ยารักษาพิษจากแอลกอฮอล์ชนิดรุนแรง ปรับปรุงเงื่อนไขการใช้ยารักษาภาวะเลือดออกรุนแรงในผู้ป่วยฮีโมฟีเลีย เป็นต้น ส่งผลให้ประชาชนเข้าถึงยาจำเป็นที่มีราคาแพงได้มากกว่า 3,200 คน รวมทั้งอนุมัติให้มีทะเบียนยามุ่งเป้าเพิ่มขึ้นอีก 18 ตำรับเมื่อรวมกับปี 2567 เป็น 35  ตำรับ เพื่อช่วยลดการนำเข้าและส่งผลให้รัฐประหยัดงบประมาณมากกว่า 600 ล้านต่อปี

          รองนายกรัฐมนตรี กล่าวย้ำว่า รัฐบาลให้ความสำคัญกับการขับเคลื่อนแผนงานเร่งรัดเศรษฐกิจผลิตภัณฑ์สุขภาพอย่างเป็นรูปธรรม พร้อมกับสนับสนุนร่างกฎหมายส่งเสริมเศรษฐกิจผลิตภัณฑ์สุขภาพอย่างครบวงจร เพื่อให้ไทยเป็นศูนย์กลางสุขภาพนานาชาติ (Medical Hub) จึงขอให้ทุกภาคส่วนร่วมกันขับเคลื่อนให้ระบบยามั่นคงด้วยการวิจัย มีการจัดหายาจำเป็นไว้ใช้อย่างต่อเนื่อง เพียงพอและทันท่วงทีทั้งในภาวะปกติและฉุกเฉิน

          นอกจากนี้ คณะกรรมการฯ ยังได้รับทราบความคืบหน้าการดำเนินการตามแผนปฏิบัติการด้านการพัฒนาระบบยาของประเทศไทย (พ.ศ. 2566-2570) และการดำเนินงานของคณะอนุกรรมการฯ ภายใต้คณะกรรมการฯ ที่ได้จัดตั้งจำนวน 9 คณะ โดยเฉพาะการส่งเสริมอุตสาหกรรมยาในประเทศ การพัฒนาบัญชียาหลักแห่งชาติ วัคซีน และสมุนไพร การพัฒนา platform ติดตามการกระจายยา (track and trace) เป็นต้น และในวันที่ 2-3 เมษายน 2568 กระทรวงสาธารณสุขจะมีการจัดประชุมวิชาการก้าวสู่ทศวรรษที่ 5 ระบบยาประเทศไทย ทั้งนี้ จึงขอเชิญชวนภาคีเครือข่ายและผู้สนใจเข้าร่วมประชุมวิชาการดังกล่าว

 

******************************************************

วันที่เผยแพร่ข่าว 4  มีนาคม 2568 /  ข่าวแจก 18  ปีงบประมาณ พ.ศ. 2568

คลังรูปภาพ